คาร์ลอส อัลการาซ ครองมือหนึ่งโลก หลังคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพ่น 2025
ปารีส, 8 มิถุนายน 2025 – คาร์ลอส อัลการาซ นักเทนนิสดาวรุ่งชาวสเปนวัย 22 ปี สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเทนนิสโลกอีกครั้ง หลังเอาชนะ จานนิค ซินเนอร์ คู่ปรับคนสำคัญจากอิตาลี ในแมตช์รอบชิงชนะเลิศศึก เฟรนช์ โอเพ่น 2025 ไปอย่างสุดมันส์ในเกมที่กินเวลายาวนานกว่า 5 ชั่วโมง พร้อมคว้าแชมป์แกรนด์สแลมสมัยที่ 5 และก้าวขึ้นครองตำแหน่ง มือหนึ่งของโลก อย่างเป็นทางการ
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่สนามโรลังด์ การ์รอสในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เทนนิสยุคปัจจุบัน เมื่ออัลการาซสามารถพลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 0–2 เซต กลับมาชนะในอีก 3 เซตที่เหลือด้วยคะแนนรวม 4–6, 6–7 (5), 6–4, 7–6 (7), 7–6 (5)โดยเฉพาะในเซตที่ 4 และ 5 นักหวดจากเมืองเอล ปาล์มาร์ โชว์ความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ท่ามกลางความกดดันสูงสุด ซึ่งเขาต้องเซฟ Championship Point ถึง 3 ครั้ง ก่อนพลิกสถานการณ์อย่างเหลือเชื่อ สู่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แมตช์นี้กินเวลาทั้งสิ้น 5 ชั่วโมง 29 นาที ทำลายสถิติเป็นแมตช์ชิงชนะเลิศเฟรนช์ โอเพ่นที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ และติดอันดับหนึ่งในแมตช์แกรนด์สแลมที่ทรหดที่สุดของยุค Open Era
สถิติที่สะท้อนความยิ่งใหญ่
ชัยชนะในรายการนี้ทำให้อัลการาซคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 5 ในชีวิต และเป็นการคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น สมัยที่ 2 ต่อจากปี 2023 โดยเขากลายเป็นนักเทนนิสคนที่สองในประวัติศาสตร์ยุค Open Era ที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ทั้ง 5 นัดชิงชนะเลิศแรกของตนเอง เทียบเท่ากับตำนานอย่างโรเจอร์ เฟเดอเรอร์
นอกจากนี้ เขายังจบการแข่งขันด้วยสถิติชนะรวดในรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม 5 นัดติดต่อกัน ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพ แต่ยังตอกย้ำว่าอัลการาซมิได้เป็นเพียงดาวรุ่งที่เปล่งประกายชั่วคราว หากแต่คือ "ราชาองค์ใหม่แห่งวงการเทนนิส"

ผลจากชัยชนะในเฟรนช์ โอเพ่นครั้งนี้ ส่งผลให้อัลการาซสะสมแต้ม ATP ได้เพียงพอในการแซงหน้าจานนิค ซินเนอร์ ขึ้นสู่ตำแหน่ง มือหนึ่งของโลก ได้สำเร็จ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เขาครองตำแหน่งนี้ในอาชีพ โดยครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นการทวงคืนบัลลังก์จากคู่แข่งคนเดิมในสนามแข่งขันที่ทั้งสองห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด
การขึ้นเป็นมือหนึ่งโลกในครั้งนี้ ยังเป็นสัญญาณชัดเจนถึงการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยในวงการเทนนิสโลก จากยุคของ "บิ๊กทรี" อย่างเฟเดอเรอร์, นาดาล และยอโควิช มาสู่ยุคของนักเทนนิสหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีทั้งพลัง ความสามารถ และเสน่ห์เฉพาะตัว
คำกล่าวหลังชัยชนะ
ในพิธีรับถ้วยแชมป์ อัลการาซได้กล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า
“นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะของผมคนเดียว แต่คือชัยชนะของทีม ครอบครัว และแฟนๆ ทุกคนที่สนับสนุนผมมาตลอด ผมเคยฝันว่าอยากชนะที่โรลังด์ การ์รอส และเป็นมือหนึ่งของโลก... วันนี้ฝันนั้นกลายเป็นจริง”
ขณะที่ซินเนอร์ แม้จะพ่ายแพ้ แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนเทนนิสทั่วโลกถึงความยอดเยี่ยมในฟอร์มการเล่น และความเป็นนักกีฬาที่ให้เกียรติคู่แข่งอย่างสูง
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



